Subnet Mask คืออะไร Subnet mask เป็น Parameter อีกตัวหนึ่งที่ต้องระบุควบคู่กับหมายเลข IP Address หน้าทีของ Subnet mask ก้คืิอ การช่วยในการแยกแยะว่าส่วนใดภายในหมายเลข IP Address เป็น Network Address และส่วนใดเป็นหมายเลข Host Address ดังนั้น ท่านจะสังเกตได้ว่า เมื่อเราระบุ IP Address ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์์ เราจำเป็นต้องระบุ Subnet mask ลงไปด้วยทุกครั้ง |
ใน Subnet Mask จะประกอบด้วยส่วนประกอบ 3 ส่วนคือ
- Network ID ใช้สำหรับแยกส่วนที่เป็น Network ID ออกจาก IP Address มีค่าเป็น 1 ทุก bit
- Subnet ID ใช้สำหรับแยก subnet ของ network มีค่าเป็น 1 ทุก bit
- Host ID ใช้สำหรับแยกส่วนที่เป็น Host ID ออกจาก IP Address มีค่าเป็น 0 ทุก bit
จำนวน bit ใน Subnet ID จะเป็นตัวบอกว่าใน Network Address ที่กำหนดจะมีกี่ subnet โดยที่จำนวน subnet จะมีค่าเท่ากับ 2จำนวน bit ของ subnet ID- 2 ดังในตารางข้างล่างนี้ สำหรับสาเหตุที่จำนวน subnet หายไป 2 subnet ก็เนื่องจากตามมาตรฐานแล้วจะไม่ใช้ Subnet ID ที่มีค่าเป็น 0 ทุก bit หรือ 1 ทุก bit
จำนวน bit | จำนวน subnet |
0* | 1 |
1 | ไม่มีค่า |
2 | 2 |
3 | 6 |
4 | 14 |
* หมายเหตุ จำนวน bit ของ Subnet ID ปกติแล้วต้องมีค่าตั้งแต่ 2 ขึ้นไป สำหรับในกรณีที่มีจำนวน bit เป็น 0 หมายความว่าไม่แบ่ง subnet หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือใน network นั้นมีแค่ subnet เดียวเท่านั้น ตัวอย่างของ Subnet Mask ที่มีจำนวน Subnet ID เป็น 0 (คือไม่มี Subnet ID) ก็คือ Subnet Mask มาตรฐานของ network แต่ละ class นั่นเอง Subnet Mask มาตรฐานของแต่ละ class มีดังนี้
Class | Subnet Mask |
A | 255.0.0.0 |
B | 255.255.0.0 |
C | 255.255.255.0 |
วิธีการกำหนด Subnet Mask สามารถทำได้ดังนี้
- ดูว่า IP Address ที่ใช้มี Network ID อยู่ใน class ไหน จากนั้นก็ set bit ในส่วนของ Network ID ให้เป็น 1 ทุก bit
- หาจำนวน bit ของ Subnet ID โดยการคำนวนจากจำนวน subnet ที่ต้องการจะแบ่ง ซึ่งสามารถหาได้โดยดูจากสูตรการคำนวนจำนวน subnet ดังนี้
- set bit ใน Subnet ID ให้เป็น 1 ทุก bit
- set bit ที่เหลือทั้งหมด (ซึ่งเป็นส่วนของ Host ID ที่เหลือ) ให้เป็น 0
- จำนวน host ในแต่ละ subnet = 2 จำนวน bit ของ Host ID ที่เหลือ - 2
จำนวน subnet = 2 จำนวน bit – 2
\จำนวน bit = log 2 (จำนวน subnet + 2)
= log (จำนวน subnet + 2) log (2)
ผลลัพธ์ที่ได้ให้ปัดเศษขึ้นเป็นจำนวนเต็ม ถ้าใครคำนวน logarithm ไม่เป็นก็ใช้วิธีสุ่มตัวเลขขึ้นมา 1 ตัวนำไปแทนในสูตรการคำนวนหาจำนวน subnet แล้วก็ดูว่าได้จำนวน subnet ใกล้เคียงกับที่ต้องการหรือเปล่า ค่อยๆปรับเปลี่ยนค่าไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ค่าที่ทำให้ได้จำนวน subnet น้อยที่สุดที่มากกว่าค่าที่ต้องการ
ตัวอย่าง สมมติว่า network ที่ต้องการมี IP Address 131.107.x.x ต้องการแบ่งให้ได้ 25 subnet ต้องใช้ Subnet Mask อะไร ช่วง IP Address ของ subnet แรกและ subnet สุดท้ายมีค่าเท่าไหร่ และในแต่ละ subnet จะมี host ได้กี่เครื่อง
วิธีทำ
- จากโจทย์เมื่อดูจาก IP Address ที่กำหนดให้จะเห็นว่าเป็น address ใน class B ซึ่งมี Network ID 2 byte ดังนั้น เมื่อ set bit ในส่วนของ Network ID ให้เป็น 1 Subnet Mask ในขั้นแรกจะมีค่าเป็น 255.255.0.0
- ต้องการแบ่งให้ได้ 25 subnet ต้องใช้จำนวน bit = log (25+2)
- set 5 bit นี้ให้เป็น 1 ทุก bit ที่เหลือเป็น 0 ทุก bit จะได้
log (2)
= 4.75
ดังนั้นจำนวน bit ที่ใช้ = 5 bit (5 bit แบ่งได้ถึง 30 subnet)
จะได้เลขของ Subnet Mask คือ 255.255.248.0
ช่วง IP Address ของ subnet แรก (Subnet ID = 00001) คือ
1000 0011.0110 1011.0000 1000.0000 0001 ถึง1000 0011.0110 1011.0000 1111.1111 1110
= 131.107.8.1 – 131.107.15.254
ช่วง IP Address ของ subnet สุดท้าย (Subnet ID = 11110) คือ
1000 0011.0110 1011.1111 0000.0000 0001 ถึง1000 0011.0110 1011.1111 0111.1111 1110
= 131.107.240.1 – 131.107.247.254
จำนวน host ที่มีได้ในแต่ละ subnet = 2 จำนวน bit ของ Host ID ที่เหลือ – 2
= 2 11 – 2 = 2046 เครื่อง
หมายเหตุ จำนวน host ที่หายไป 2 เครื่องเนื่องจากตัด Host ID ที่เป็น 0 ทุก bit และ Host ID ที่เป็น 1 ทุก bit ออกไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น